จริงหรือ? ที่ AI จะมาแย่งงาน Software Developer ไปหมด

ช่วงที่ผ่านมา เราเริ่มได้ยินคนพูดกันว่า AI จะมาแย่งงานคน รวมถึงงานในสาย Software Developer ด้วย หลายคนเริ่มกังวลว่าเราจะตกงานกันหรือเปล่า ในฐานะที่ TechUp ทำงานเรื่องการฝึก Software Developer โดยตรง เลยอยากขอเล่าความเห็นของเรา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองกัน

AI เขียนโค้ดเก่งกว่าคนแล้วจริงหรือ

บางคนบอกว่า AI เขียนโค้ดได้ดีกว่าคนแล้ว แถมมันยังสามารถเขียนโค้ด แก้บั๊ก ออกแบบระบบ และสื่อสารรอบด้านได้พร้อมกัน มันไม่ต้องพัก ไม่ต้องนอน ไม่ป่วย แล้วนับวันก็ยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ ราคาถูกลงเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องจริง

อย่างนี้บริษัทเขาไปไม่จ้าง AI กันหมดเหรอ จะมาจ้าง Software Developer ที่เป็นคนธรรมดาทำไม

ความจริงของการใช้ AI ในบริษัท

แต่จริงๆ แล้วเวลาที่บริษัทใช้ AI มันไม่ใช่ว่าจ่ายเงินเสร็จแล้ว AI จะเริ่มทำงานได้ทันที

เวลาที่บริษัทเอา AI มาใช้งาน ก็ต้องมีคนที่คอยสั่งการ AI และคอยเช็คผลงานของมัน โค้ดทั้งหมดที่ AI เขียน ต้องมีคนออกคำสั่งว่าให้มันเขียนอะไร และต้องมีคนตรวจสอบว่าทำงานถูกต้อง ก่อนที่จะอนุมัติให้ใช้งานได้ แถมในหลายกรณีก็ต้องมีการสั่งให้แก้งานก่อนที่จะใช้ได้จริง

ต่อให้เป็นงานต่างๆ ที่ AI ทำโดยอัตโนมัติ ก็ยังต้องมีคนวางแผน ออกแบบกระบวนการ และมอบหมายให้มันทำ

คนที่ใช้ AI ดีจะแย่งงานคนที่ไม่ใช้ AI

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินแล้วว่า ไม่ใช่ AI ที่จะแย่งงานคน แต่คนที่ใช้ AI ได้ดีต่างหาก จะแย่งงานคนที่ไม่ใช้ AI

คำถามที่เราควรถามต่อก็คือ แล้วคนเราต้องทำยังไงถึงจะเป็น "คนที่ใช้ AI ได้ดี" หรือที่หลายๆ คนเรียกว่าเป็น "AI-assisted worker" หรือ "AI-first worker"

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ขอพูดถึงกรณี Software Developer ก่อน เนื่องจากเป็นสายงานที่ TechUp มีประสบการณ์โดยตรง และน่าจะเป็นสายงานที่ผู้อ่านหลายคนสนใจ

เราต้องทำยังไงถึงจะเป็น AI-First Software Developer

เรามองว่า AI-First Developer ควรจะต้องมี Technical Skills สามด้านหลักๆ

1. Software Engineering Concepts + Principles (หลักการ คอนเซปต์ และองค์ความรู้ต่างๆ ในการสร้างซอฟต์แวร์ที่ดี)

2. Computational and Systems Thinking (การคิดเชิงระบบ แบ่งปัญหาออกเป็นส่วนย่อยๆ และคิดเป็นลำดับขั้นตอน)

3. Tool Proficiency (การใช้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงเครื่องมือ AI เช่น Cursor)

จริงๆ แล้ว ทั้ง 3 อย่างคือสิ่งที่ Software Developer ที่ดีต้องมีอยู่แล้วแต่ไหนแต่ไร เพียงแต่ว่าการมาของ Generative AI ทำให้ทักษะเหล่านี้สำคัญมากขึ้น (ไม่ใช่น้อยลง) เพราะ AI เป็นเหมือน “แขนขาเพิ่มเติม” ที่ช่วยให้คนสามารถนำทักษะเหล่านี้มาสร้างผลงานได้ดีและมากกว่าเดิม

ใช้ได้กับทุกสายงาน

จริงๆ แล้วกลุ่มทักษะ 3 อย่างนี้ มีแค่อันแรกเท่านั้นที่เป็นองค์ความรู้เฉพาะทางของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ถ้าเราถามว่าทักษะที่จำเป็นสำหรับ AI-First Worker ในสายงานอื่นๆ คืออะไร ก็น่าจะต่างจากด้านบนแค่ข้อแรก ส่วนอีกสองข้อน่าจะเหมือนเดิม เช่น ทักษะสำหรับ AI-First HR Professional ก็จะเป็น 3 ข้อนี้

1. HR concepts + principles
2. Computational and systems thinking
3. Tool proficiency

คนที่รู้ 3 อย่างนี้ ก็จะเป็น AI-first HR Professional ได้ เพราะว่าจะมี

1. องค์ความรู้ที่จำเป็น เช่น กระบวนการสัมภาษณ์พนักงานที่ดีประกอบไปด้วยอะไร
2. สามารถแบ่งโจทย์ใหญ่เป็นขั้นตอนย่อยได้ เช่น การสร้างกระบวนการสัมภาษณ์ที่ดี ประกอบไปด้วยงานย่อยอะไรบ้าง และแต่ละส่วนมี Input และ Output อะไร
3. สามารถนำ 1+2 ไปมอบหมายให้ AI ทำได้ เช่น มอบหมายงานแต่ละส่วนให้ ChatGPT ทำ โดยเขียน Prompt ที่ให้ผลตามที่ต้องการ หรือสร้างเป็น Automated Flow ใน n8n โดยมีมนุษย์ตรวจสอบผลงานในแต่ละขั้นตามเหมาะสม

(ทั้งหมดนี้พูดถึงแค่ทักษะ “Technical” หรือทักษะเฉพาะทางเท่านั้น แน่นอนว่าในตำแหน่งงานส่วนใหญ่เราจะต้องมีทักษะอื่นๆ เช่น การสื่อสาร การทำงานกับผู้อื่น ฯลฯ ด้วย)

ทิศทางการพัฒนาทักษะในยุค AI

ดังนั้น สิ่งที่คนทำงานและองค์กรต่างๆ รวมถึงภาครัฐสามารถทำได้ ก็คือเน้นเสริมสร้างทักษะ 3 ด้านข้างต้น ได้แก่ องค์ความรู้เฉพาะทาง การคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และการใช้เครื่องมือ AI ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อป้องกันการตกงาน แต่เพื่อใช้ AI เป็นโอกาสในการช่วยให้คนทำงานได้เร็วกว่า แม่นยำกว่า และสร้างสรรค์กว่าที่เคยเป็นมา

เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะกังวลเรื่องการแย่งงานโดย AI สักเท่าไหร่ เทคโนโลยีนี้ก็คงไม่หายไปไหน และคงจะอยู่กับเราไปอีกนาน ในบริบทนี้ คนที่เตรียมตัวพร้อมและปรับตัวได้ดี จะเป็นคนที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มากที่สุด